ทริป 1 วัน จาก Tokyo สู่ Kanagawa:
เที่ยว 2 สถานศักดิ์สิทธิแห่งเมืองคามาคุระ ตามหาเทพมังกรบนเกาะเอ็นโนชิมะ
โปรแกรมนี้ค่อนข้างแน่นถ้าจะเก็บให้ครบต้องออกแต่เช้า จบทริปก็สักประมาณหัวค่ำ ทริปนี้เริ่มจากเดินทางถึงสถานีรถไฟ Hase Sta. เดินไปขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่วัด (1) Hasedera Temple หลังจากนั้นเดินต่อไปสักการะบูชาพระใหญ่ไดบุสึที่วัด (2) Kotoku-in Temple จากนั้นเดินทางต่อไปที่เกาะ (3) Enoshima Island ใช้เวลาเที่ยวบนเกาะประมาณ 3 -4 ชั่วโมง เหตุผลที่ให้เที่ยวเกาะ Enoshima เป็นที่สุดท้ายเพราะในเวลาตอนเย็นช่วงพลบค่ำบนเกาะจะเปิดไฟสวยงาม จะได้ชมบรรยากาศไปอีกแบบนึง จบทริปก็เดินทางกลับ Tokyo
ENOSHIMA KAMAKURA FREE PASS
การเดินทางในทริปนี้แนะนำให้ซื้อ Enoshima Kamakura Freepass 1 day เป็นพาสใช้เดินทางไปตามเมืองต่างๆ ในจังหวัด Kanagawa ภายใน 1 วัน ราคา 1,470 เยน ซึ่งจะประหยัดกว่าแยกจ่ายค่ารถไฟเป็นเที่ยวๆ (ในกรณีที่มี JR Pass ไม่ต้องซื้อพาสนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องจ่ายค่ารถไฟบางขบวนอยู่ดี) ส่วนสถานที่จำหน่ายตั๋วก็สามารถซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราได้เลย หรือจะซื้อจากตู้จำหน่ายตั๋วในสถานีรถไฟ Shinjuku Sta. ตู้จำหน่ายตั๋วจะตั้งอยู่แถวๆทางเดินที่จะไปรถไฟสาย Odakyu Line
ส่วนการเดินทางไปที่เมือง Hase เริ่มจากสถานี Shinjuku Sta. ขึ้นรถไฟสาย Ltd. Exp Enoshima ไปลงที่สถานี Fujisawa Sta. เพื่อเปลี่ยนขบวนรถไฟสาย Enoshima Electric Railway ไปถึงสถานี Hase Sta. ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 91 นาที
สถานที่แรกที่จะมาคือวัดฮาเซเดระ เป็นวัดพุทธที่มีความสำคัญในเมืองคามากุระ เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมสีทอง 11 เศียร ซึ่งทำจากต้นการบูรขนาดใหญ่ในเมืองนารา แกะสลักได้องค์เจ้าแม่กวนอิม 2 องค์ องค์นึงประดิษฐานอยู่ที่เมืองนารา อีกองค์ถูกลอยน้ำมาพร้อมคำอธิฐานว่าจะไปปกป้องรักษาชาวเมืองที่ลอยไปถึง จนกระทั้่งลอยมาถึงเมือง Kamakura ก็ได้ถูกอันเชิญขึ้นมาประดิษฐานและสร้างวัด Hasedera แห่งนี้ถวายให้ ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขว้าง มีบรรยากาศรื่นรมย์มาก
อาคารหลักของวัดฮาเซเดระ ตั้งอยู่บนเนินเขา ต้องเดินขึ้นบันไดมา ภายในมีห้องโถง Kannon do hall ที่เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทอง 11 เศียร (ภายในห้ามถ่ายรูป) ส่วนบริเวณเชิงเขาด้านล่างจะมีถ้ำ ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของท่าน Benten ซึ่งเป็นองค์เดียวกับที่เกาะเอ็นโนชิมะ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีลานตุ๊กตาหินจิโซนับพันองค์ ที่เชื่อกันว่าเป็นพระชิโจที่คอยทำหน้าที่นำพาวิญญานเด็กๆขึ้นสู่สวรรค์
วิธีการเดินทางไปวัด Hasedera คลิกที่นี่
วัด Kotoku-in
วัดโคโตกุอิน เป็นที่ประดิษฐาน องค์พระพุทธรูปสำริดไดบุทสึ ตั้งอยู่กลางแจ้ง ซึ่งแต่เดิมก็มีอาคารไม้สร้างปกคลุมพระพุทธรูปไว้ แต่เนื่องจากเกิดพายุบ่อยครั้งในอดีต ทำให้ตัวอาคารไม้ได้รับความเสียหาย เลยได้ทำการรื้ออาคารไม้ออก เหลือแต่องค์พระพุทธรูปตั้งเด่นเป็นสง่าไว้ ว่ากันว่าถ้ามองพระพุทธรูปจากระยะไกลจะเห็นว่ามือของพระพุทธรูปดูไม่สมส่วน คือมือจะดูเล็ก แนะนำให้ลองยืนห่างออกจากองค์พระประมาณ 5 เมตร แล้วมองขึ้นไปจะเห็นองค์ที่สมส่วนได้รูป
ด้านหลังองค์พระจะมีประตูทางเข้าเล็กๆ มีค่าใช้จ่าย 20 เยน สำหรับเดินเข้าไปข้างในองค์พระได้ ภายในองค์พระนั้นจะโปร่ง มีหน้าต่างเล็กๆ ระบายอากาศ ไม่กว้างมาก มีแสงส่องเข้ามานิดหน่อย
วิธีการเดินทางไปวัด Kotokuin คลิกที่นี่
เกาะ Enoshima
เกาะเอ็นโนชิมะเป็นเกาะที่ถูกเรียกขานว่าเป็นเกาะแห่งความรัก เนื่องจากมีตำนานความรักที่เล่าขานกันระหว่างเทพมังกรกับท่านเทพเบนเทนที่จำแลงกายลงมาเป็นผู้หญิงเพื่อจะลงมาปกป้องชาวพื้นเมืองบนเกาะแห่งนี้ ในอดีตผู้คนที่ต้องการจะข้ามไปยังเกาะ Enoshima จะต้องรอจังหวะน้ำทะเลลดลงจะเห็นเป็นทางเดินข้ามไปยังเกาะได้ จนกระทั้งมีการสร้างสะพานข้ามไปยังเกาะให้ใช้กันจนถึงปัจจุบัน
ที่เกาะ Enoshima ก็มีออนเซนชื่อดัง Enoshima Island Spa บรรยากาศบริเวณ Outdoor Hot Spring สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิด้วย ที่สำคัญที่นี่เป็นออนเซนรวมเพียงไม่กี่แห่งที่ชายหญิงสามารถแช่รวมกันได้
อาหารพื้นเมืองที่อยากจะแนะนำให้ลองทานดู ก็คือ ข้าวหน้าปลาชิระสุ (Shirasu Donburi) เป็นเมนูปลาเนื้อขาว ตัวเล็กประมาณ 1 เซ็นติเมตร ซึ่งอาศัยอยู่ในอ่าวซากามิรอบเกาะ Enoshima เป็นจำนวนมาก เมนูชนิดนี้จะเสิร์ฟทั้งแบบดิบและสุกโดยใช้ราดบนข้าวสวยพร้อมโรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอล ร้านอาหารในแถบนี้ส่วนใหญ่จะขายเมนูนี้กันทั้งนั้น หรือถ้าใครกลัวจะคาวลองทานเป็นแบบทอดกรอบก็อร่อยไปอีกแบบ เค้าทอดออกมาได้ดี ไม่อมน้ำมัน ราดซอสโชยุทานกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติไม่เลี่ยนเลย อร่อยมาก
เดินมาเรื่อยๆ จะเจอร้านขายขนมเซมเบ้ร้านนี้ ปกติคนจะเยอะมาก ยื่นรอต่อคิวซื้อกันแถวยาวเชียว เค้าจะขายกันอยู่สองรสคือรสกุ้งกับรสปลาหมึก ที่พิเศษคือเค้าจะใช้กุ้งหรือปลาหมึกทั้งตัวราดด้วยแป้งและกดทับด้วยความร้อนจนได้เป็นแผ่นบางๆ หอม กรอบ อร่อยมาก
บนเกาะมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายจุดประกอบไปด้วย
1.ศาลเจ้า Hetsu No Miya
2.ศาลเจ้า ์Nakatsu No Miya
3.หอคอยชมวิว(Sea Candle)
4.ศาลเจ้า Okutsu Miya
5.ระฆังแห่งความรัก (Love Bell of Dragon)
6.ถ้ำ Iwaya Cave
จากแผนที่บนเกาะ ถ้าเดินมาตามทางขึ้นเขา ก็จะพบกับจุดท่องเที่ยวแต่ละจุดตามลำดับ ถ้าจะเก็บให้ครบทุกจุดก็คงต้องใช้เวลาสักประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง ระหว่างทางขึ้นเขาจะมีบันไดเลื่อนให้บริการ(แต่ต้องเสียตังค์นะ) ถ้าใครแพลนว่าจะเที่ยวให้ครบทุกจุด รวมไปถึง ขึ้นไปจุดชมวิวบนหอยคอ Sea Candle และเข้าไปเดินเล่นในถ้ำ Iwaya Cave แนะนำให้ซื้อเป็นตั๋วเหมารวมไปเลย 1,000 เยนจะคุ้มกว่า
เดินมาถึงตรงนี้ก็จะถึงทางขึ้นเขาละ ก็เลือกเอาว่าจะเดินขึ้นเขาหรือจะไปขึ้นบันไดเลื่อน ถ้าจะไปบันไดเลื่อนก็ให้เดินไปทางซ้าย จะมีจุดจำหน่ายตั๋วเพื่อใช้บริการ ส่วนบริเวณทางเดินขึ้นเขาจะมีเสาโทริอิตั้งอยู่ แสดงว่าเริ่มเข้าสู่เขตศาลเจ้าละ
เมื่อเดินขึ้นมาตามทางจะเจอศาลเจ้าแรก(Hetsu No Miya) ศาลเจ้านี้โดดเด่นตรงที่มีห่วงวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่เท่าตัวคนวางไว้อยู่หน้าศาลเจ้า ผู้คนมักจะเดินลอดผ่านเพิ่อความปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายเป็น และมีโชคมีลาภ เวลาเดินมีหลักอยู่ว่าให้เดินลอดเป็นเลข 8 ซึ่งเลข 8 มีความหมายว่า Infinity แปลว่าโชคลาภที่มีวันสิ้นสุด
บริเวณหน้าศาลเจ้าจะมีฆ้องไม้อันนี้วางอยู่ ให้อธิฐานของพรแล้วเขย่าฆ้องเพื่อความโชคดี ถัดไปไม่ไกลเห็นมีคนเอาเหรียญใส่ตะกร้าล้างน้ำ เชื่อว่าจะทำให้มีโชคเรื่องเงินทอง บางก็เอาเหรียญโยนลงภาชนะหน้ารูปปั้นมังกรเพื่อความโชคดี
เดินต่อขึ้นมาอีกนิดเดียวก็จะมาเจอศาลเจ้าที่สอง (Nakatsu No Miya) ศาลเจ้านี้มีชื่อเสียงในเรื่องขอพรเกี่ยวกับความรัก เครื่องรางป้ายไม้ขอพร(Ema) ก็จะเป็นสีชมพู จะมีจุดแขวนป้ายอธิฐาน ตั้งอยู่รอบต้นแปะก้วยเก่าแก่ 2 ต้นแทนสัญลักษณ์ผู้ชายกับผู้หญิงให้มีความรักที่ยาวนานดั่งอายุของต้นแปะก้วย
จากศาลเจ้า Nakatsu No Miya ขึ้นมาเรื่อยๆก็จะถึงบริเวณจุดสูงสุดของเกาะ Enoshima บริเวณนี้จะมีหอยคอยชมวิว Sea Candle พื้นที่ตรงนี้่จะเป็นลานกว้างๆ มีร้านค้าขายของทานเล่น มองเห็นหอชมวิว Sea Candle อยู่ใกล้ๆ จริงๆแล้วเค้าตั้งใจสร้างขึ้นให้ดูเหมือนรูปแท่งเทียน สามารถขึ้นไปข้างบนหอคอยเพื่อชมวิวรอบเกาะจากมุมสูง 360 องศา ในวันที่อากาศดีๆก็จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากมุมสูงบนหอคอยได้ ถ้าจะซื้อบัตรขึ้นไปบนหอคอยจากตรงนี้จะเสียค่าผ่านประตู 500 เยน แบ่งเป็นค่าเข้าชมสวน Samuel Cocking Garden 200 เยนและค่าเข้าชมหอคอย Sea Candle 300 เยน
รอบๆหอคอย Sea Candle จะมีสวน Samuel Cocking Garden บริเวณนี้จะเปิดไฟสวยงามในตอนกลางคืน ทุกๆปีที่เกาะ Enoshima จะมีจัดงานเทศกาลประดับไฟ Enoshima Illumination (Shonan No Hoseki) ถือว่าเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงมาก จัดขึ้นประมาณเดือน พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ของทุกปี (รายละเอียดวันจัดงานต้องเช็คอีกที เนื่องจากแต่ละปีจะไม่ตรงกัน)
ลงมาจากหอคอย เดินต่อมาก็จะมาถึงศาลเจ้าที่สาม (Okutsu Miya) ศาลเจ้านี้เป็นศาลเจ้าเล็กๆ เป็นที่ตั้งของถ้ำมังกร ซึ่งปกติจะปิดไม่ให้เข้า แต่เราสามารถกราบไหว้ขอพรบริเวณหน้าปากถ้ำได้
จากถ้ำมังกรเดินมาตามทางจะมีป้ายบอกทางไปยัง Bell of Love มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า ระฆังริวเร็น ถูกสร้างขึ้นในปี 1996 โดยอิงจากตำนาน เทพธิดาและมังกรห้าหัว นักท่องเที่ยวนิยมมาลั่นระฆังและคล้องกุญแจคู่รักไว้ที่รั้วเหล็กเพื่อให้ได้ครองคู่กันยาวนาน
ระหว่างทางเดินไปด้านหลังเกาะเพื่อจะไปถ้ำ Iwaya Cave จะผ่านชุมชนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะ คอยให้บริการขายสินค้าพื้นเมือง บางก็เปิดเป็นร้านอาหาร บรรยากาศดีทีเดียว
เมื่อเดินมาด้านหลังของเกาะก็จะมาถึงถ้ำ Iwaya Caves เป็นจุดท่องเที่ยวสุดท้ายของเกาะ ถ้ำ Iwaya Caves เป็นถ้ำสองถ้ำ ตั้งอยู่ที่หน้าผาตามแนวชายฝั่งทะเลของเกาะ เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลมานานปี ภายในถ้ำแรกเป็นที่ประดิษฐสถานของพระพุทธรูปจำนวนหนึ่ง ลึกเข้าไปยังมีทางแยกออกเป็นสองส่วนซ้ายกับขวา ส่วนทางซ้ายลึกเข้าไปมีความเชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมต่อไปยังถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ ซึ่งอยู่ในภูเขาไฟฟูจิ (แต่ในส่วนนีั้ไม่อนุญาติให้เดินเข้าไป) และทางขวาเป็นต้นกำเนิดของศาลเจ้า Enoshima นั่นเอง ส่วนถ้ำที่สองจะเป็นเรื่องราวตำนานของเทพมังกรที่เคยอาศัยอยู่บริเวณนี้ ว่ากันว่าภายในถ้ำจะเป็นบริเวณที่มี Power Spot ที่เป็นพลังงานในแง่บวกช่วยส่งเสริมให้เป็นศิริมงคลแก่ชีวิต ณ จุดนี้ถ้าจะเข้าชมจะต้องเสียค่าเข้าชม 500 เยน พอเข้ามาแล้วจะได้รับแจกโคมไฟมือถือ
เดินต่อมาถ้ำที่ 2 ซึ่งจากตำนานเป็นที่อยู่ของเทพมังกร ภายในถ้ำมีรูปปั้นของเทพมังกรและมีกลองวางอยู่ข้างหน้า เชื่อกันว่าให้อธิฐานแล้วตีกลอง 2 ทีถ้ามีไฟกระพริบทั้ง 2 ที คำอธิฐานจะเป็นจริง
วิธีการเดินทางไปเกาะ Enoshima คลิกที่นี่
เที่ยวครบทุกจุดบนเกาะแล้วก็เดินกลับทางเดิมมาที่สถานีรถไฟ Enoshima Sta. เพื่อเดินทางกลับ จากสถานีรถไฟ Enoshima Sta. นั่งรถไฟสาย Enoshima Electic Railway ไปลงที่สถานี Fujisawa Sta. เพื่อเปลี่ยนขบวนรถไฟสาย Odakyu Enoshima Line Exp. แล้วนั่งยาวผ่านสถานี Sagami-Ono (ไม่ต้องลง) ไปลงสถานี Shinjuku Sta. ใช้เวลา 87 นาที
ทริปนี้โปรแกรมค่อนข้างโหด โดยเฉพาะที่เกาะ Enoshima เพราะต้องเดินขึ้นลงเขาและต้องเดินย้อนกลับทางเดิมอีก แต่ก็ถือเป็นการใช้ 1 Day Pass ได้คุ้มค่ามาก ใครเก็บครบได้ทุกจุดก็ต้องขอตรบมือให้ คุณแกร่งจริงๆ!!
ปล.ชื่นชอบบทความ ช่วยกดไลท์กดแชร์ Facebook Fan Page ด้านล่างสุด จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ







































ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น