ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
ทริป 1 วันจาก Osaka สู่เมือง Shirahama
Shirahama ตั้งอยู่ทางใต้ของภูมิภาคคันไซ อยู่ติดกับทะเล เป็นเมืองตากอากาศมีที่ชื่อเสียงของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนบริเวณชายหาดชิราฮาม่าจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมานอนอาบแดดกันเต็มชายหาด และเป็นแหล่งออนเซนที่มีชื่อเสียงอีกด้วย นอกจากนี้เมืองเล็กๆแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่อีกไม่น้อย ซึ่งทริปของเราในวันนี้ไม่ได้พามาออนเซน ไม่ได้พามานอนเล่นชายหาด แต่จะพามาเที่ยวสถานที่ที่ลึกลับ ดูแปลกตา ทำให้คิดว่า "ญี่ปุ่นก็มีมุมแบบนี้ด้วยหรอ" การเดินทางมาจากโอซาก้า ถ้าเดินทางโดยรถไฟ ขึ้นรถไฟที่สถานี Tennoji Sta. จะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง แต่ถ้ามาจากจังหวัด Wakayama นั่งรถไฟจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

สำหรับผมใช้จังหวัดนี้เป็นจุดแวะพักแวะเที่ยว เป็นทางผ่านไปยังเมือง Kii Katsuura เพื่อไปเที่ยวศาลเจ้า Kumano Nachi Taisha กับน้ำตก Nachi เพราะฉะนั้นผมมีเวลาแค่ 1 วันในเมือง Shirahama แห่งนี้ เลือกเที่ยวสถานที่เที่ยวหลักๆของเมือง เริ่มจากแวะกินอาหารทะเลสดๆราคาย่อมเยาที่ ตลาดสด (1)Toretore Market จากนั้นไปเที่ยวต่อที่หน้าผาหิน (2)Sandenbeki Rock Cliff บริเวณใกล้เคียงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกคือถ้ำโจรสลัด (3)Sandenbeki Cave และลานหิน (4)Senjojiki และรอชมพระอาทิตย์ตกที่ (5)Engetsu Island


การเดินทางในเมือง Shirahama สามารถนั่งรถบัส(Meiko Bus) จากหน้าสถานีรถไฟ Shirahama Sta. จะมีรสบัสหลายสายไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมือง (ดูจากแผนผังการเดินรถด้านล่างน่าจะพอเข้าใจ)

เมือง Shirahama เป็นเมืองเล็กๆ สถานที่เที่ยวแต่ละจุดอยู่ไม่ไกลกันนัก  การเดินทางโดยใช้บริการรถแท็กซี่ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะถ้ามากัน 3-4 คน นั่งแท็กซี่น่าจะสะดวกกว่า เพราะค่าโดยสารจากจุดนึงไปอีกจุดนึงไม่แพงเท่าไหร่

TORETORE MARKET
สถานที่แรกที่เราจะไปคือ Toretore Market อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Shirahama Sta. เป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในเมือง Shirahama บริหารงานโดยสมาคมสหกรณ์ประมง และเป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น จำหน่ายอาหารทะเลสด ผลไม้ตามฤดูกาล รวมไปถึงอาหารทะเลแปรรูปและของฝากของที่ระลึก ถ้าเปรียบเทียบกับตลาด Kuroshio Market ในจังหวัด Wakayama ตลาดที่นี่ขายของถูกกว่า มีของขายหลากหลายกว่าเยอะ ถ้านั่งรถบัสมาจากสถานี Shirahama Sta.ให้มาลงที่ป้าย Toretore Ichiba-mae [S-5] มีรถบัสอยู่หลายสายวิ่งมาถึง(ดูจากแผนที่รถบัสด้านบนประกอบ)




ด้านหน้าตลาดมีโซนบาบิคิวให้เราสามารถซื้อหาอาหารสดมานั่งปิ้งย่างกินกันเหมือนกับที่ตลาด Kuroshio Market แต่บรรยายกาศไม่ดีเหมือนกับที่นั้น ไม่ได้ติดทะเล คือไม่ต้องเน้นบรรยายกาศ เน้นของสดของดีในราคาน่าคบ แต่ที่นี่จะมีเก็บค่าบริการ คิดต่อคน ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 100 เยน

นอกจากนี้ภายในบริเวณตลาดยังมีโซนคล้าย Foodcourt มีร้านค้าขายอาหารทะเลปรุงกันสดๆ มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ปิ้งย่างขายกัน รวมไปถึงซูชิ ซาชิมิ ข้าวหน้าทะเลต่างๆอีกเพียบ ที่สำคัญราคาไม่แพงเลย มันคือสวรรค์ของนักกินจริงๆ ^^












SANDENBEKI ROCK CLIFF
จากตลาด Toretore Market เรามุ่งหน้าต่อมาที่หน้าผาหิน Sandenbeki Rock Cliff เป็นหน้าผาสูง 50 เมตร มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตรยื่นออกไปริมชายฝั่งทะเล เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม แต่ภายใต้ความสวยงามก็แฝงเรื่องราวที่น่าขนลุก เพราะที่หน้าผาแห่งนี้ติดอันดับสถานที่ในญี่ปุ่นที่มีคนชอบมากระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายกัน จนกระทั่งต้องมีป้ายเตือนว่าไม่ให้มีการกระทำเช่นนั้น ถ้าจะนั่งรถบัสมาเที่ยวที่นี่ ให้มาลงที่ป้าย Sandenbeki [S-24] (ดูจากแผนที่รถบัสด้านบนประกอบ)


SANDENBEKI CAVE
นอกจากนี้ข้างล่างใต้หน้าผายังมีสถานที่ลึกลับซ่อนตัวอยู่ ถ้ำ Sandenbeki Cave ในอดีตภายในถ้ำแห่งนี้เป็นที่จอดเรือและหลบซ่อนตัวของโจรสลัด การจะลงไปเที่ยวในถ้ำมีวิธีเดียวคือจะต้องลงลิฟท์ที่อยู่ในอาคารตามที่เห็นในภาพ บริเวณด้านหน้าอาคารจะมีออนเซนเท้าให้แช่ฟรีนั่งดูวิวไปเพลินๆ


เข้ามาในตัวอาคารจะเห็นมีลิฟท์ที่ใช้โดยสารลงไปยังถ้ำ ลึกลงไปถึง 36 เมตร มีเก็บค่าบริการ ผู้ใหญ่ 1,300 เยน เด็ก 650 เยน แพงอยู่เหมือนกัน แต่ก็รวมค่าเข้าชมสถานที่อยู่ในราคานี้แล้ว สำหรับคนที่มีสัมภาระหรือกระเป๋ามาด้วย ณ จุดนี้มีที่ฝากกระเป๋าให้ด้วย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร



พอลงลิฟท์มาถึงด้านล่างจะเจอมุมให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เป็นชุดเกราะนักรบฉากหลังเป็นวิถีชีวิตของชาวประมง

ภายในถ้ำมีวัดด้วย มีจุดให้เราล้างมือ บ้วนปากเหมือนวัดทั่วไป ประดับไปด้วยโคมไฟกว่าร้อยดวงแขวนอยู่บนเพดาน ภายในมีพระพุทธรูปอยู่ 18 องค์ มีองค์พระประทานอยู่ตรงกลางคือเทพเจ้าแห่งน้ำ( God of water) เรียกชื่อตามภาษาญี่ปุ่นว่า "มูโระ ดาอิ เบนเซอิเท็น"




แต่ที่เห็นแปลกตาคือตามเสาจะมีกระดาษรูปการ์ตูนแอนนิเมชั่นแปะอยู่เต็มไปหมด เหมือนกับว่าจะไว้ให้เราเขียนชื่อแล้วเอาไปแปะที่เสาเพื่อเป็นการขอพร บริเวณใกล้เคียงมีจุดจำหน่ายกระดาษขอพรแบบนี้ใบละ 100 เยน มีทั้งหมด 5 ลาย แต่ละลายก็ตามแต่ละวัตถุประสงค์ของการขอพร เช่นเรื่องสุขภาพ การเงิน ความรัก การเดินทาง และการศึกษา ซื้อมาแล้วให้แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนนึงให้เขียนชื่อแล้วเอาไปแปะที่เสา อีกส่วนให้เอาเก็บไว้ติดตัว



ภายในถ้ำเวลาถ่ายรูป รูปที่ออกมาจะเห็นเป็นพื้นน้ำสีฟ้าเรืองแสงดูสวยงามแปลกตาดี ยังมีส่วนที่จัดแสดงชุดเกราะและอาวุรยุทธอุปกรณ์ต่างๆของโจรสลลัด Tagamura ที่ใช้ถ้ำแห่งนี้เป็นที่พักอาศัย


เดินมาถึงจุดนี้เป็นจุดไฮไลท์ของถ้ำ จะเป็นปากถ้ำที่มีคลื่นซัดเข้ามาเป็นระลอกๆ กระแสน้ำตรงจุดนี้แรงมาก เราจะได้เห็นพลังของคลื่นที่ซัดเข้ามากระทบกับหินภายในถ้ำที่มีลักษณะพิเศษเป็นโพรงอยู่ข้างใน เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ พอคลื่นสลายไปหินเหล่านี้ก็จะคายน้ำออกมา เป็นภาพที่หาดูได้ยาก



ส่วนบริเวณนี้จะมีรูปติดอยู่ อธิบายถึงลักษณะรูปทรงของหินแต่ละจุดซึ่งดูคล้ายกับหัวสิงโตบ้าง รูปหน้าคนบ้าง บางจุดก็ดูคล้ายกับรูปหมาป่า ก็จิตนาการกันไป


ส่วนตรงนี้คือปากทางเข้าออกถ้ำ เป็นช่องทางที่พวกโจรสลัดนำเรือเข้ามาจอด บริเวณนี้ในตอนเย็นจะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดนึง


SENJOJIKI
หลังจากนั้นเรากลับขึ้นลิฟท์มา ยังมีจุดท่องเที่ยวอีกจุดนึงในบริเวณนี้ นั้นคือ ลานหิน Senjojiki จากอาคารขึ้นลงลิฟท์ ให้เดินต่อไปตามทางจะพบเห็นเป็นพื้นที่ลานหินกว้างๆ ตั้งอยู่ตรงปลายสุดของแหลมเซะโตะซากิ พื้นหินบริเวณนี้เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกจนเกิดเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่คล้ายกับเสื่อทาตามิเรียงตัวทับซ้อนหลายพันแผ่นยาวสุดลูกหูลูกตา ณ จุดนี้เราสามารถมองเห็นหน้าผา Sandenbeki Rock Cliff อีกมุมนึง จากตรงนี้สามารถมองเห็นปากถ้ำ Sandenbeki Cave ที่โจรสลัดนำเรือเข้าไปหลบซ่อนตัวด้วย เราใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปอยู่บริเวณนี้สักพักใหญ่ก็เพื่อรอเวลาใกล้พระอาทิตย์ตกดิน จากนั้นเราจะเดินทางไปยังจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินกันที่ Engetsu Island





ENGETSU ISLAND
Engetsu Island หรืออีกชื่อนึงคือ Takashima เป็นเกาะเล็กๆตั้งอยู่กลางมหาสมุทรใกล้กับชายฝั่ง ลักษณะพิเศษของเกาะแห่งนี้คือจะมีรูอยู่ตรงกลาง เกิดการการกัดเซาะของคลื่นลมตามธรรมชาติ จนเป็นที่มาของชื่อเกาะ Engetsu ที่แปลว่า Full Moon เกาะแห่งนี้ก่อตัวขึ้นจากหินทราย และค่อยๆสึกกร่อนไปตามกาลเวลา เนื่องจากโครงสร้างที่ไม่แข็งแรงนัก มันมีโอกาสพังทะลายลงมาได้ทุกเมื่อ การเดินทางมาเที่ยวที่นี่ ถ้านั่งรถบัสให้มาลงที่ป้าย Rinkai (Engetsuto Islet) [S-54] (ดูจากแผนที่รถบัสด้านบนประกอบ)

ผู้คนนิยมมาบริเวณที่แห่งนี้ก็เพื่อมารอชมพระอาทิตย์ตกดินในช่วงเวลาที่อาทิตย์เคลื่อนตัวลงมาตรงกับรูตรงกลางของเกาะพอดิบพอดี เป็นภาพที่สวยงามมาก และถือเป็น 1 ใน 100 จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาชมพระอาทิตย์ตกดินคือเวลา 18:30น. ในช่วงฤดูร้อน และเวลา 16:30น. ในช่วงฤดูหนาว

จบละครับทริป 1 วันในเมืองเล็กๆแห่งนี้ จากตรงนี้สามารถเดินทางกลับไปโอซาก้าได้เลย ก็นั่งรถไฟนานหน่อยประมาณสองชั่วโมง สำหรับผมไปต่อครับ สถานีต่อไปของผมคือ Kii Katsuura เพื่อจะไปเที่ยวแถวๆน้ำตก Nichi และเส้นทางแสวงบุญ Kumano Kodo ในบทความต่อๆไปของผมนะครับ

ปล.ชื่นชอบบทความ ช่วยกดไลท์กดแชร์ Facebook Fan Page ด้านล่างสุด จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แนะนำโรงแรมโดนๆ: Urashima Hotel  โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นกับสุดยอดออนเซน!! วันนี้มารีวิวโรงแรมที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีชื่อว่า Urashima Hotel ตั้งอยู่ในจังหวัดวากายาม่า (Wakayama) เมืองคิอิคัทสึอูระ (Kiikatsuura) เมืองนี้เป็นแหล่งจับปลาทูน่าได้มากที่สุดของญี่ปุ่นด้วย โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่เกาะ ประมาณว่าเกาะทั้งเกาะเป็นของเค้า พื้นที่หลักๆแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกตั้งอยู่เชิงเขาด้านหน้าเกาะ ซึ่งเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ reception และห้องพักบางส่วน ส่วนพื้นที่ที่สองจะตั้งอยู่บนเขาซึ่งเป็นส่วนของห้องพักในระดับราคาที่แพงขึ้นไป มีจุดชมวิว รวมไปถึงออนเซนในบรรยากาศสุดยอด ไฮไลท์ของโรงแรมคือบ่อออนเซนทั้ง 6 บ่อในบรรยากาศออนเซนที่อยู่ในถ้ำริมหน้าผาติดทะเล จะสวยงามอย่างไรตามมาชมเลยครับ เนื่องจากตัวโรงแรมตั้งอยู่บนเกาะที่แยกตัวออกไป การเดินไปโรงแรมเราต้องนั่งเรือข้ามไป ซึ่งทางโรงแรมก็มีบริการเรือรับส่งให้กับนักท่องเที่ยวฟรี รอสักพักเรือของโรงแรมก็มา จากท่าเรือมองเห็นโรงแรมอยู่ไกลๆ นั่งเรือไปประมาณ 10 นาทีก็ถึง เข้ามาถึงโรงแรมก็จะเจอเคาน์เตอร์ Check in ก่อน หลั
ร้านอร่อย NAGOYA : พากิน ประชัดความอร่อย!! วันนี้จะพามากินเมนูเด่นเมนูดังในเมืองนาโกย่า ซึ่งทั้งสองเมนูนี้ก็มีจุดกำเนิดอยู่ที่เมืองนี้ ร้านแรกที่จะพาไปกินคือร้านข้าวหน้าหมูทอด yabaton เมนูเหมือนจะธรรมดาแต่มันไม่ธรรมดา ความพิเศษของข้าวหน้าหมูทอดร้านนี้คือเจ้าตัวซอสมิโซะที่ใช้ราดบนหมูทอด แตกต่างจากร้านทงคัตสึทั่วไปที่จะกินกับซอสวูสเตอร์(ซอสรสเปรี้ยวอมหวาน) ซึ่งเจ้าซอสมิโซะก็มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เมืองนาโงย่านี่แหละ อีกเมนูนึงที่จะพาไปกินคือข้าวหน้าปลาไหล Horaiken ร้านนี้เป็นต้นกำเนิดเมนูข้าวหน้าปลาไหลเลยนะ ก่อนที่มันจะได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่น สำหรับผมต้องยกให้เป็นเบอร์หนึ่งในเรื่องข้าวหน้าปลาไหลที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่นเลย วันนี้พาไปกินร้านดังทั้งสองร้านของเมืองนาโงย่า ส่วนร้านไหนอร่อยกว่ากันให้ทุกท่านเป็นผู้ตัดสินเองนะครับ^^ YABATON  ข้าวหน้าหมูทอด เริ่มที่ข้าวหน้าหมูทอด Yabaton ก่อน ร้านนี้จริงๆมีสาขาอยู่ทั่วเมืองนาโงย่า ประมาณว่าเดินไปตรงไหนก็เจอ แต่เราจะพามาที่สาขาตรงสถานีรถไฟ JR Nagoya หาง่ายหน่อย พอมาถึงสถานีรถไฟ JR Nagoya แล้วให้เดินออกทางด้านหลัง ตรงทางออก Taiko-do
แนะนำโรงแรมโดนๆ: SARUGAKYO โรงแรมเต้าหู้ ชื่ออาจจะฟังดูแปลกๆ ที่เรียกว่าโรงแรมเต้าหู้เพราะมีโรงงานทำเต้าหู้เล็กๆอยู่ภายในโรงแรม ที่สำคัญเค้าสามารถนำเอาผลิตภัณฑ์จากเต้าหู้ที่ทำเองมารังสรรค์เป็นเมนูหลากหลายให้แขกที่มาพักในโรงแรมได้ทานกันทั้งอาหารเช้าและอาหารเย็น ขอบอกเลยว่าอร่อยมาก ไม่คิดว่าเต้าหู้จะสามารถนำมาทำเป็นอาหารทั้งคาวหวานได้หลากหลายแบบนี้ ตามมาดูกันเลย Sarugakyo (อ่านว่า: ซารุกาเคียว) เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในจังหวัดกุนมะ(Gunma) ในเมืองมินาคามิ (Minakami) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ห่างจากกรุงโตเกียวประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติโจชินเอะสึโคเก็น ติดกับทะเลสาบอะคายะ อีกฟากของโรงแรมจะเป็นเทือกเขาทานิกาว่า มีทัศนียภาพสวยงามตลอดทั้งปี บริเวณล๊อปบี้ของโรงแรมสามารถมองเห็นวิวทะเลสาบอะคายะได้อย่างชัดเจน โรงแรมแห่งนี้มีห้องพักทั้งหมด 52 ห้อง มีตั้งแต่ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น และห้องพักที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตก มาดูโรงงานเต้าหู้ภายในโรงแรมกันบ้าง โรงงานจะเป็นอาคารชั้นเดียวแยกออกมาต่างหากจากอาคารที่พัก ตั้งอยู่ชั้นล่
ทริป 1 วัน จาก Tokyo สู่ Shizuoka พอพูดถึงการมาเที่ยวชมความงดงามของภูเขาไฟฟูจิ หลายคนจะนึกถึงเมือง Kawaguchiko ในจังหวัด Yamanashi จริงๆแล้วภูเขาไฟฟูจิมีพื้นที่ติดกับสองจังหวัดในญี่ปุ่น อีกจังหวัดที่กล่าวถึงคือจังหวัด Shizuoka ซึ่งจะมีทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิที่งดงามแตกต่างกันออกไป การมาเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิในจังหวัดชิซูโอกะ เราจะได้พบกับทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิกับไร่ชาเขียวซึ่งมีความสวยงามไปอีกแบบ รายละเอียดโปรแกรมการเที่ยว เริ่มจากนั่งรถไฟจากโตเกียวมาลงที่สถานี Shizuoka Sta. ต่อรถบัสมาเที่ยวแถบ Nihondaira แวะถ่ายรูปที่จุดชมวิว (1)Nihondaira Hill สัมผัสกรรมวิธีการเก็บใบชาที่ (2)Nihondaira Tea Hall ถ่ายรูปไร่ชาโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ตลอดจนแวะซื้อผลิตภัณฑ์ชาเขียวได้ที่ร้านขายชาในสวน จากนั้นเดินกลับมาขึ้นกระเช้าไปเที่ยวบนเขา Mt.Kuno ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า (3)Kunosan Toshogu ชมสถาปัตยกรรมที่งดงามและสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนั่งกระเช้ากลับลงมาต่อรถบัสกลับเข้าไปเดินเล่นในเมือง เดินเล่นช็อปปิ้งที่ถนน (4)Gofukucho Dori แวะทานทาร์ตผลไม้ร้านดัง (5)Qu'il Fait Bon
ทริป 1 วัน จาก Osaka สู่ Wakayama ปราสาทสวย รวยของอร่อย ต้องที่นี่!! จังหวัดวากายาม่าตั้งอยู่ในพื้นที่ใต้สุดของภูมิภาคคันไซ มีพื้นที่ชายฝั่งติดทะลและมีเมืองหลวงชื่อวากายาม่า ชื่อเดียวกับจังหวัด อยู่ห่างจากโอซาก้าประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถไฟ มีสถานที่ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง วันนี้เราจัดทริปเลือกเอาสถานที่ที่น่าสนใจในเมืองวากายาม่า ให้สามารถเที่ยวได้จบภายในหนึ่งวัน ลองมาดูกันว่ามีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง ทริปนี้เราเที่ยวกันอยู่ในเมืองวากายามา เริ่มจากนั่งรถบัสไปเที่ยวที่ (1) Wakayama Marina City ศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งตลาดปลา Kuroshio สวนสนุก Porto Europa และตลาดผลไม้ กินอาหารกลางวันบาบีคิวปิ้งย่างในบรรยากาศตลาดสดติดริมทะเล จากนั้นนั่งรถบัสเดินทางไปเที่ยวต่อที่ (2) Wakayama Castle ที่มีสวนและธรรมชาติโดยรอบที่สวยงาม หามุมถ่ายรูปสะพานไม้โบราณที่มีตัวปราสาทวากายาม่าเป็นฉากหลัง จากนั้นแวะกินราเมงก่อนกลับที่ร้าน (3) Ide Shoten Ramen ราเมงที่ชนะที่ 1 ในรายการทีวีแชมเปี้ยน ร้านดังประจำจังหวัด จบทริปเดินทางกลับโอซาก้า ขอเริ่มที่สถานี JR-Namba Sta. ในเมือง Osaka นั่งขบวนรถไฟ JR Yamatoji
เลิกงงซะที ในสถานีรถไฟญี่ปุ่น!! หลายคนมาเที่ยวญี่ปุ่นก็คงหนีไม่พ้นต้องใช้รถไฟในการเดินทางเป็นหลัก เพราะมันสะดวกและไปได้ทั่วถึงทุกที่ สำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่คงจะงงกับระบบรถไฟของญี่ปุ่น ไม่ใช่เฉพาะแค่มือใหม่หัดเที่ยว ขนาดมือเก่าที่เคยมาเที่ยวญี่ปุ่นบ้างแล้วบางคนยังมีอาการมึนงง นั้นเป็นเพราะมันมีรถไฟหลายประเภทหลายสายมากๆ แค่ยืนดูแผนผังรถไฟก็งงแล้ว วันนี้เรามาบอกวิธีการสังเกตง่ายๆในการทำความเข้าใจระบบรถไฟของญี่ปุ่น เพื่อจะขึ้นรถไฟแล้วไม่งงไม่หลงอีกต่อไป ทำความรู้จักกับประเภทของรถไฟต่างๆในญี่ปุ่นกันก่อน ถ้าจะให้แบ่งประเภทรถไฟในญี่ปุ่นก็อาจจะแบ่งได้หลักๆเป็น 3 ประเภท 1. รถไฟ JR 2. รถไฟความเร็วสูง(Shinkansen) 3. รถไฟใต้ดิน(Subway) ที่ต้องการแบ่งให้เห็นชัดเจนอย่างนี้เพราะรถไฟแต่ละประเภทจะมีชานชาลา(Track)และมีรางวิ่งเป็นของตัวเอง ยกตัวอย่าง เช่นถ้าคุณต้องการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง(Shinkansen) คุณก็ต้องเดินไปขึ้นที่ชานชาลาเฉพาะของรถไฟ Shinkansen นั้นเอง เรามาลองทำความรู้จักรถไฟแต่ละประเภทให้มากขึ้น รถไฟ JR เป็นเครือข่ายรถไฟที่วิ่งอยู่ทั่วประเทศ ทั้งวิ่งในตัวเมืองและวิ่งข้าม
ทริป 1 วัน จาก Tokyo สู่ Kanagawa: เที่ยว 2 สถานศักดิ์สิทธิแห่งเมืองคามาคุระ  ตามหาเทพมังกรบนเกาะเอ็นโนชิมะ   โปรแกรมนี้ค่อนข้างแน่นถ้าจะเก็บให้ครบต้องออกแต่เช้า จบทริปก็สักประมาณหัวค่ำ ทริปนี้เริ่มจากเดินทางถึงสถานีรถไฟ  Hase Sta. เดินไปขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่วัด (1) Hasedera Temple หลังจากนั้นเดินต่อไปสักการะบูชาพระใหญ่ไดบุสึที่วัด (2) Kotoku-in Temple จากนั้นเดินทางต่อไปที่เกาะ (3) Enoshima Island ใช้เวลาเที่ยวบนเกาะประมาณ 3 -4 ชั่วโมง เหตุผลที่ให้เที่ยวเกาะ Enoshima เป็นที่สุดท้ายเพราะในเวลาตอนเย็นช่วงพลบค่ำบนเกาะจะเปิดไฟสวยงาม จะได้ชมบรรยากาศไปอีกแบบนึง จบทริปก็เดินทางกลับ Tokyo ENOSHIMA KAMAKURA FREE PASS การเดินทางในทริปนี้แนะนำให้ซื้อ Enoshima Kamakura Freepass 1 day เป็นพาสใช้เดินทางไปตามเมืองต่างๆ ในจังหวัด Kanagawa ภายใน 1 วัน ราคา 1,470 เยน ซึ่งจะประหยัดกว่าแยกจ่ายค่ารถไฟเป็นเที่ยวๆ (ในกรณีที่มี JR Pass ไม่ต้องซื้อพาสนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องจ่ายค่ารถไฟบางขบวนอยู่ดี) ส่วนสถานที่จำหน่ายตั๋วก็สามารถซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราได้เลย หรือจะซื้อจากตู้จำหน่ายตั๋วในสถ
ทริป 1 วัน จาก Osaka สู่ Hyogo ตอน: เช้าไปเย็นกลับที่ Arima Onsen ทริปนี้เรามาเที่ยวกันที่จังหวัดเฮียวโกะ จังหวัดนี้มีอะไรดัง? ถ้าพูดถึงเมืองโกเบคนส่วนใหญ่คงรู้จักดี โกเบก็เป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัดเฮียวโกะ แต่วันนี้เราจะพาไปเที่ยวเมืองออนเซนชื่อดังที่อยู่อีกฝั่งนึงของเมืองโกเบ อาริมะออนเซนเป็นเมืองออนเซนที่มีชื่อเสียง มีน้ำแร่คุณภาพดีที่สุดติดอับดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น สามารถเดินทางมาจากโอซาก้า เที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้ นอกจากนั้นในช่วงเย็นๆ เราพาขึ้นเขาไปดูวิวกลางคืนของอ่าวโกเบที่ได้ฉายาว่า The Million Dollar Night View ทริปนี้จะฟินขนาดไหน ตามมาครับ HANKYU HIGHWAY BUS เราเลือกใช้วิธีการเดินทางจากโอซาก้าโดยรถบัสของ Hankyu Highway Bus น่าจะเป็นวิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุด ถ้านั่งรถไฟมันต้องนั่งกันหลายต่อ เรามาขึ้นรถบัสที่ Hankyu Sanban Gai ใต้สถานีรถไฟใต้ดิน Hankyu Umeda Sta.(Subway) รถบัสที่วิ่งไปกลับระหว่างโอซาก้ากับอาริมะออนเซนจะมีอยู่ด้วยกัน 3 สาย นั่งไปได้ทั้ง 3 สาย ต่างกันที่จะมีบางสายวิ่งตรง บางสายแวะบางจุดก่อน จากภาพด้านล่าง -สายสีแดง(Express) จะแวะที่สถานีรถไ
ทริป 1 วัน จาก Tokyo สู่ Chiba เสน่ห์ 2 เมืองเก่าในจังหวัดชิบะ ตามรอยละครดัง ทริปนี้โปรแกรมไม่แน่น มีเวลาให้เดินเล่นชมเมืองสบายๆในเขตเมืองเก่าทั้ง 2 เมืองในจังหวะดชิบะซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ส่วนที่พาดหัวไว้ว่า "ตามรอยละครดัง" เพราะว่ามีหนังญี่ปุ่นหลายต่อหลายเรื่อง รวมไปถึงละครไทยเรื่อง "รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน" และหนังไทยเรื่อง "ฟัด จัง โตะ" ก็ใช้โลเคชั่นของวัดนาริตะซันกับเมื่องโบราณซาวาระเป็นที่ถ่ายทำด้วย การเดินทางสู่เมืองนาริตะเริ่มจากสถานีรถไฟ Tokyo Sta. นั่งรถไฟสาย JR Sobu Line Rapid Service ถึงสถานี Narita Sta. ใช้เวลาเดินทาง 73 นาที (จริงๆมีขบวนอื่นสามารถเดินทางมาถึงได้เหมือนกัน แต่ขบวนนี้ง่ายที่สุดแล้ว) รถไฟจะแวะจอดที่สถานี Chiba Sta. ไม่ต้องลง นั่งต่อไปเลยจนถึงสถานี Narita Sta. รถไฟขบวนนี้จะมีทุกๆชั่วโมง ถึงเมืองนาริตะ เที่ยววัดดังประจำจังหวัด Naritasan Shinshoji ตลอดเส้นทางสู่วัดนาริตะซังจะผ่านถนนสายการค้า Omotesando ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก สินค้าพื้นเมือง และร้านอาหารยาวเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ระหว่างทางท่านจะพบ
ทริป 1 วัน จาก Tokyo สู่ Saitama ย้อนวัยเด็กที่ตรอกลูกกวาด ตามหาเครื่องรางที่ศาลเจ้าแห่งความรัก ทริปนี้โปรแกรมไม่แน่นมาก เที่ยวสบายๆ เพราะเที่ยวอยู่แค่ในเมือง Kawagoe ที่เดียว แต่ในเมืองมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะให้เราเที่ยวกันได้ทั้งวัน วิธีการเที่ยวในเมืองที่ดีที่สุดคือการเดินเที่ยวรอบเมืองจนไปสุดที่ศาลเจ้า Hikawa Shrine แล้วนั่งรถเมล์กลับมาที่สถานีรถไฟ เริ่มจากหน้าสถานีรถไฟ Kawagoe Sta. เดินไปเขตเมืองเก่า Kurazukuri จะผ่าน (1)ถนนชอปปิ้ง Crea Mall  ลักษณะจะคล้ายๆกับถนน Takeshita dori ในฮาราจูกุ จากนั้นเดินต่อไปสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิที่ (2)วัด Kitain  วัดสำคัญประจำเมือง ชมพระพุทธรูปหินกว่า 540 องค์ที่มีชื่อเสียงของวัด  แวะรับประทานข้าวหน้าปลาไหลที่ร้านดัง (3)ร้าน Ichinoya  หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เดินต่อมาอีกสักพักจะเข้าสู่ (4)เขตเมืองเก่า Kurazukuri  แวะถ่ายรูปกับ (5)หอระฆัง Toki no kane  เป็นที่ระลึกซึ่งเป็น Landmark สำคัญในเขตเมืองเก่าแห่งนี้ เดินต่อไปอีกนิดจะไปถึง (6)Candy Alley หรือตรอกลูกกวาด ก่อนจะไปขอพรเรื่องความรักกันที่ (7)ศาลเจ้า Hikawa Shrine  จบโปรแก