NABANA NO SATO WINTER ILLUMINATION
เทศกาลแสดงไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
วันนี้เราพามาเที่ยวงานเทศกาลจัดแสดงไฟที่มีชื่อเสียงที่สุดงานนึงในญี่ปุ่น Nabana No Sato Winter Illumination แม้ว่าชื่อของงานจะเป็นงานแสดงไฟฤดูหนาว แต่จริงๆแล้วงานเทศกาลจัดแสดงไฟแห่งนี้จัดขึ้นในข่วงฤดูใบไม้ผลิยาวไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง จะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคมเลยทีเดียว
Nabana No Sato Wintet Illumination จัดขึ้นภายในพื้นที่ของโรงแรม Nagashima Resort ในเมืองคุวานะ(Kuwana) จังหวัดมิเอะ(Mie) ภายในโรงแรมมีพื้นที่ใหญ่มาก แบ่งออกเป็น 4 โซน คือ 1.Nagashima Spa Land and Amusement Park / 2.Hot Spring snd Onsen Complex / 3.Outlet Shopping Mall และ 4.Flower Park ซึ่งงานแสดงไฟ Nabena No Sato Winter Illumination จะจัดขึ้นในโซนนี้
ที่สวนดอกไม้มีเวลาเปิดปิดตั้งแต่ 09:00น.-22:00น. แต่งานแสดงไฟจะเริ่มเปิดไฟในเวลา18:30น.โดยประมาณ ถ้ามาก่อนฟ้ามืดยังไม่ได้เปิดไฟ ก็สามารถเดินชมดอกไม้ภายในสวนไปพรางๆก่อนได้ ที่สวนแห่งนี้จะปลูกดอกไม้ตามฤดูกาลสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปทั้ง 4 ฤดู สามารถเข้าชมสวนดอกไม้ได้ตลอดทั้งปี
สำหรับการเดินทาง สามารถเดินทางมาได้หลายวิธีทั้งรถไฟและรถบัส เอาแบบนั่งรถบัสก่อน ถ้านั่งรถบัสมาจากนาโงย่าน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะใช้เวลาแค่ 35 นาที นั่งต่อเดียวไปลงที่บริเวณพื้นที่จัดงานแสดงไฟ Nabana No Sato ได้เลย จะต้องไปขึ้นรถบัสที่ Meitetsu Bus Center ซึ่งอยู่ในห้าง Meitetsu Department Store(Men's Building)ใกล้กับสถานีรถไฟ Nagoya Sta. พอถึงที่ห้าง Meitetsu Department Store แล้วให้เดินขึ้นไปซื้อตั๋วที่ชั้น3 ค่าตั๋วโดยสารแบบไป-กลับราคา 1,780 เยน จากนั้นเดินไปขึ้นรถที่ชั้น4 Platform หมายเลข22 รถบัสจะวิ่งไปจอดที่ป้ายแรกคือ Nabena No Sato ให้ลงที่ป้ายนี้เลย หลังจากนั้นรถบัสจะวิ่งต่อไปป้ายที่สองคือ Nagashima Onsen สำหรับคนที่จะไปเที่ยวในโซนสวนน้ำสวนสนุกหรือ Outlet Shopping Mall ก็จะมาลงป้ายนี้
สำหรับผมเดินทางมาจากเมืองอิเสะ(Ise)ในจังหวัดมิเอะ(Mie)เที่ยวล่องมาเรื่อยๆและจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดนาโงย่าเลยเลือกแวะเที่ยวที่นี่ก่อน ผมมีบัตร JR Pass เลยเลือกนั่งรถไฟของ JR มาลงที่สถานี Nagashima แล้วเดินไปขึ้นรถบัสที่หน้าสถานีรถไฟ Kintetsu Nagashima Sta. ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ค่าโดยสารรถบัสประมาณ 220 เยน
พอมาถึงสถานี Nagashima Sta. ให้เดินลงอุโมงค์ตามรูปด้านล่างแล้วเลี้ยวไปทางขวา พอขึ้นมาจากอุโมงค์ก็ข้ามถนนไปจะเห็นสถานีรถไฟ Kintetsu Nagashima Sta. อยู่ข้างหน้า ก็เดินไปรอรถบัสที่ป้ายสีน้ำเงินหน้าสถานีรถไฟได้เลย มีถ่ายรูปตารางเวลารถบัสมาให้ด้วย รถบัสรอบสุดท้ายที่จะไป Nabana No Sato คือเวลา 19:45น. แต่แนะนำให้ไปเช้าหน่อยก่อนฟ้ามืด จะได้มีเวลาถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศแบบไม่ต้องเร่งรีบ
พอนั่งรถบัสมาลงที่ป้าย Nabana No Sato ก็เดินตรงเข้ามาเลย จะเห็นจุดจำหน่ายตั๋วเข้าชมงาน จะขายอยู่ที่ราคา 2,300 เยน แต่จะมีคูปอง 500 เยน 2 ใบให้มาด้วย ไว้ใช้แทนเงินสดสำหรับใช้ซื้อของหรือใช้จ่ายค่าอาหารได้
พอซื้อตั๋วเข้าชมงานแล้วจะได้แผนที่มาด้วย จากแผนที่เราเดินเข้าไปในบริเวณพื้นที่จัดแสดงเริ่มจากประตูทางเข้าออกตรงกับโซนพื้นที่หมายเลข#3ในแผนที่ เดินวนขวาทวนเข็มนาฬิกาไปตามลูกศรสีน้ำเงิน
จากประตูทางเข้าเดินมาทางขวาจะมาถึงโซนพื้นที่หมายเลข#5(ดูตามแผนที่ด้านบน) จะเป็นพื้นที่จัดแสดงไฟสีน้ำเงิน(White Crystal) เป็นสวนหย่อมๆอยู่หน้า Beer Garden(หมายเลข#4) ใกล้กันมี foot spa ให้นักท่องเที่ยวไปแช่เท้าดูไฟเพลินๆ
ใกล้กันเป็นโซนพื้นที่หมายเลข#6(ดูตามแผนที่ด้านบน) มีโบสถ์เล็กๆและต้นคริสมาสสองต้นประดับประดาไฟสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณทางเดินเข้าโบสถ์ ข้างๆโบสถ์เป็นร้านขายเบเกอรี่ชื่อร้าน Marseilles
เดินต่อไปเรื่อยๆจะเป็นโซนร้านอาหารใหญ่ๆอยู่สี่ห้าร้าน ก็สามารถใช้คูปองที่ได้มาใช้จ่ายแทนเงินสดได้ ขาดเหลือก็จ่ายตังค์เพิ่มไป
เดินต่อมาอีกหน่อยจะมาถึงโซนหมายเลข#7(ดูจากแผนผังด้านบน) เป็นสระน้ำขนาดใหญ่กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง โซนนี้ก็ถือเป็นไฮไลท์ของงานโซนนึง จัดแสดงไฟเป็นลักษณะเหมือนลำธารน้ำไหล(Light of River) เปลี่ยนสีสลับไปมา โดยมีโบสถ์เล็กๆตั้งอยู่เป็นฉากหลัง มีการจัดแสดงไฟตามต้นไม้รอบๆสระน้ำสีสันสวยงามมาก
เดินเลยมาอีกนิดก็จะถึง Island Fuji จุดชมวิวมุมสูง 360 องศา ซึ่งเราจะต้องนั่งกระเช้าลักษณะคล้ายจานบินขึ้นไป ตรงนี้จะต้องเสียค่าขึ้นกระเช้าคนละ 500 เยน กระเช้าจะยกตัวขึ้นสูงจากพื้นประมาณ 45 เมตรและจะหมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลาประมาณ 10 นาที วิวจากด้านบนจะเห็นบริเวณโดยรอบงานจัดแสดงไฟตั้งแต่ทางเข้าจนมาถึงบริเวณสระน้ำที่เราเดินผ่านมาและโซนที่เป็นไฮไลท์ของงาน อุโมงค์ไฟและภูเขาไฟกับทุ่งดอกไม้ 4 ฤดูที่เรากำลังจะเดินต่อไป
ใกล้กับจุดซื้อตั๋วกระเช้า Island Fuji จะมีบ้านเรือนกระจก Begonia Garden ภายในจัดแสดงดอกไม้และพันธุ์ไม้นานาชนิด จะเข้าชมในโซนนี้ต้องเสียค่าเข้าชม 1,000 เยน โซนนี้เราขอผ่านไม่ได้เข้าชมเพราะต้องรีบทำเวลาละ เดี๋ยวสวนจะปิดซะก่อน
หลังจากลงมาจากกระเช้าก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ จะมาถึงอีกมุมนึงของสระน้ำ มองเห็นการจัดแสดงไฟ Light of River ได้อย่างชัดเจน มุมนี้สวยงามมากๆ เรายืนอยู่บนกลางสะพานถ่ายรูปมุมนี้ได้อย่างชัดเจน
ช่วงที่เรามาเที่ยวเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ยังมีใบไม้เปลี่ยนสีหลงเหลือให้เห็นอยู่ การจัดแสดงไฟบริเวณต้นไม้สีสันต่างๆทำได้ดีมาก ช่วยดึงสีสันของต้นไม้ออกมาจากความมืดในเวลากลางคืน โดยเฉพาะตอนที่สีสันของต้นไม้สะท้อนกับผิวน้ำเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ
เดินต่อมาไม่ไกลก็จะมาถึงไฮไลท์ของงาน Light of Tunnel โซนพื้นที่หมายเลข#9(ดูจากแผนผังด้านบน) อุโมงค์ดาวล้านดวงแห่งนี้ยาวถึง 200 เมตร บริเวณนี้คนเยอะมาก เราพยายามหาจังหวะถ่ายรูปช่วงที่ไม่มีคน ยืนรออยู่นานก็ได้ภาพอย่างที่เห็น ระหว่างที่เดินลอดผ่านอุโมงค์ไฟแห่งนี้เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก
พอเดินพ้นจากอุโมงค์ไฟมา จะมาถึงโซนพื้นที่หมายเลข#10(ดูจากแผนที่ด้านบน) จัดแสดงเป็นภูเขาไฟและทุ่งดอกไม้ พื้นที่บริเวณนี้ตรีมของงานจะเปลี่ยนไปทุกปี โดยในปีนี้(ปี 2017-2018) จัดแสดงในตรีม Kumamoto Damon ที่รวมเอาของดีและสถานที่สำคัญของเมืองคุมาโมโตะ(Kumamoto)มาจัดแสดง โดยมีตัว คุมะโมง มาสคอตประจำเมืองคุมาโมโตะมาร่วมแสดงสร้างสีสันในงานด้วย พื้นที่ตรงนี้เป็นทุ่งดอกไม้ประดับไฟเป็นบริเวณกว้างและมีภูเขาไฟเป็นฉากหลัง เราสามารถเดินแทรกตัวเข้าไปในทุ่งดอกไม้ไฟได้ ให้บรรยากาศราวกับอยู่ท่ามกลางทุ่งแสงไฟนีออนนับล้านดวงเลย
ต่อเนื่องจากโซนทุ่งดอกไม้ไฟจะเป็นโซนพื้นที่หมายเลข#11(ดูจากแผนผังด้านบน) จะเป็นอุโมงค์ไฟอีกอันแต่จะสั้นกว่าอันแรก อุโมงค์อันนี้จะเปลี่ยนสีสลับกันไปมา
เดินออกมาจากอุโมงค์สลับสี ก็จะมาเจอกับ Spa House เราไม่ได้แวะตรงจุดนี้เพราะใกล้เวลาที่สวนจะปิดแล้ว เดินต่อมาก่อนถึงทางออก จะมีร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านขายอาหาร ถ้าใครยังไม่ได้ใช้คูปองเงินสด ตรงนี้เป็นจุดสุดท้าย รีบใช้ซื้อของตรงนี้ให้หมดซะ
ถึงเวลากลับสักที พอเดินออกมาจากบริเวณพื้นที่จัดแสดง ก็เดินมาขึ้นรถบัสที่จุดเดิม มีรถรอบสุดท้ายใกล้กับเวลาปิดทำการ ถ้าจะกลับนาโงย่าโดยรถบัส ให้มารอขึ้นรถที่ป้ายสีแดง ส่วนใครจะกลับโดยรถไฟก็ให้มารอรถที่ป้ายสีฟ้า นั่งกลับไปที่สถานี Kintetsu Nagashima Sta. ก็เลือกเอาว่าจะนั่งรถไฟของJR หรือรถไฟสายเอกชน(Kintetsu Line) ถ้าจะกลับ JR ก็เดินไปขึ้นรถไฟที่สถานี Nagashima Sta. ที่อยู่ใกล้กัน
จบละครับงานแสดงไฟที่ยิ่งใหญ่งานนึงของญี่ปุ่น ขอบอกเลยว่ามันสวยงามมาก ส่วนตัวก็ไม่เคยเที่ยวงานแสดงไฟที่ใหญ่โตขนาดนี้มาก่อน รู้สึกประทับใจมาก เหมือนกับว่าเราหลุดเข้าไปอยู่ในอีกโลกนึงเลย ใครที่มาเที่ยวนาโงย่าน่าจะเอาสถานที่เที่ยวแห่งนี้ใส่เข้าไปในลิสต์ของคุณด้วย หรือถ้ามาจากจังหวัดมิเอะ ลองแวะมาเที่ยวที่นี่ก่อนที่จะไปนาโงย่าก็เป็นความคิดที่ไม่เลว ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวนะครับ
ปล.ชื่นชอบบทความ ช่วยกดไลท์กดแชร์ Facebook Fan Page ด้านล่างสุด จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น