ทริป 1 วัน จาก Tokyo สู่ Shizuoka
พอพูดถึงการมาเที่ยวชมความงดงามของภูเขาไฟฟูจิ หลายคนจะนึกถึงเมือง Kawaguchiko ในจังหวัด Yamanashi จริงๆแล้วภูเขาไฟฟูจิมีพื้นที่ติดกับสองจังหวัดในญี่ปุ่น อีกจังหวัดที่กล่าวถึงคือจังหวัด Shizuoka ซึ่งจะมีทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิที่งดงามแตกต่างกันออกไป การมาเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิในจังหวัดชิซูโอกะ เราจะได้พบกับทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิกับไร่ชาเขียวซึ่งมีความสวยงามไปอีกแบบ
รายละเอียดโปรแกรมการเที่ยว
เริ่มจากนั่งรถไฟจากโตเกียวมาลงที่สถานี Shizuoka Sta. ต่อรถบัสมาเที่ยวแถบ Nihondaira แวะถ่ายรูปที่จุดชมวิว (1)Nihondaira Hill สัมผัสกรรมวิธีการเก็บใบชาที่ (2)Nihondaira Tea Hall ถ่ายรูปไร่ชาโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ตลอดจนแวะซื้อผลิตภัณฑ์ชาเขียวได้ที่ร้านขายชาในสวน จากนั้นเดินกลับมาขึ้นกระเช้าไปเที่ยวบนเขา Mt.Kuno ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า (3)Kunosan Toshogu ชมสถาปัตยกรรมที่งดงามและสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนั่งกระเช้ากลับลงมาต่อรถบัสกลับเข้าไปเดินเล่นในเมือง เดินเล่นช็อปปิ้งที่ถนน (4)Gofukucho Dori แวะทานทาร์ตผลไม้ร้านดัง (5)Qu'il Fait Bon เดินต่อไปอีกหน่อยแวะทานไอศครีมชาเขียวเจ้าดังระดับตำนาน (6)Nanaya Matcha จบทริปเดินทางกลับโตเกียว
การมาเที่ยวในจังหวัด Shizuoka ในทริปนี้เหมาะสำหรับคนที่มีบัตร JR Pass 7 วัน แบ่งสักวันหนึ่งมาเที่ยวทริปนี้ดู ส่วนคนที่ไม่มี JR Pass ไม่แนะนำนะครับเพราะค่าเดินทางค่อนข้างแพง ถึงจะนั่งรถบัส ก็ไม่มีรถบัสวิ่งตรงจากโตเกียวมาแถบ Nihondaira เลย เพราะฉะนั้นการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถไฟ Shinkansen Hikari จากสถานี Tokyo Sta. มาถึงสถานี Shizuoka Sta. ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 1 ชั่วโมง
พอถึงสถานีรถไฟ Shizuoka Sta. จะไปเที่ยวแถว Nihondaira ถ้ามาเที่ยวกันในวันธรรมดาแนะนำให้นั่งแท๊กซี่เลยทั้งไปและกลับจะดีที่สุด เพราะในวันธรรมดารถบัสวิ่งไม่กี่รอบ ถ้าจำไม่ผิดจะมีแค่ 4 รอบในหนึ่งวัน มากันสัก 3-4 คนค่าแท๊กซี่หารกันแพงกว่าไม่เท่าไหร่ เพราะค่ารถบัสก็ตกคนละ 580 เยนแล้ว ถ้านั่งแท๊กซี่ เรียกไปลงที่ Nihondaira Tea Hall ได้เลย เที่ยวเสร็จค่อยเดินกลับมาที่ Nihondaira Ropeway แต่ถ้ามาในวันเสาร์-อาทิตย์จะนั่งรถบัส ให้เดินออกทาง North Exit ไปขึ้นรถบัสสาย 42 ที่ป้ายรถบัสเบอร์ 11 หน้าสถานีรถไฟ วันเสาร์-อาทิตย์รอบรถจะมีทุกๆชั่วโมง นั่งไปประมาณ 35 นาทีไปลงที่ Nihondaira Ropeway Bus Stop
ตารางเวลารถบัสจากสถานีรถไฟ Shizuoka Sta. ไป Nihondaira Ropeway Bus Stop
สำหรับคนที่นั่งรถบัสมา พอลงรถที่ป้าย Nihondaira Ropeway แล้ว ยังไม่ขึ้นกระเช้า เราจะเดินไปเที่ยวที่ไร่ชาก่อน จากภาพข้างล่าง วงกลมสีชมพูคือจุดขึ้นลงรถบัส Nihondaira Ropeway Bus Stop(จะอยู่ด้านหน้าร้านขายของฝากของที่ระลึก) ต้องเดินข้ามเนินเขาวงกลมสีฟ้า Nihondaira Hill ไปลงอีกฟากนึง(บนเนินเขาจะมีจุดชมวิวให้เราสามารถเก็บภาพสวยๆ) แล้วเดินต่อไปถึงไร่ชา Nihondaira Tea Hall วงกลมสีเหลือง
พอลงจากรถบัส จะเดินไปที่ Nihondaira Hill ง่ายๆเลย ให้สังเกตุเสาส่งสัญญานทีวีที่อยู่บนเนินเขา ให้เดินขึ้นไปทางนั้น
ป้ายรถบัส Nihondaira Ropeway Bus Stop
เสาส่งสัญญานทีวีบน Nihondaira Hill
บนเนินเขา Nihondaira Hill จะเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ลองเดินวนเล่นสักรอบ หามุมสวยๆถ่ายภาพก่อนข้ามไปลงอีกฟากของเนินเขาเพื่อไปไร่ชา
NIHONDAIRA TEA HALL
จังหวัดชิซูโอกะเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับภูเขาไฟฟูจิ เป็นแหล่งเพาะปลูกชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น กว่า 70% ของผลผลิตทั้งหมดมาจากจังหวัดนี้ คนที่มาเที่ยวจะได้เห็นไร่ปลูกชาโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดชิซูโอกะเลยทีเดียว ถ้ามาในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมไร่ชาจะเป็นสีเขียวเหมือนในภาพข้างล่าง
กิจกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่มาเยือนคือการได้มาสัมผัสขั้นตอนในการเก็บใบชา ในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากถึง 35 คน จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้พาไปเลือกเก็บใบชาอย่างถูกวิธี ฤดูการเก็บใบชาจะอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี ไร่ชาแห่งนี้ปลูกชาถึง 8 สายพันธุ์ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อชาคุณภาพดีจากร้านขายชาในสวน
เสร็จจากไร่ชาแล้วให้เดินกลับมาทางเดิม ไปขึ้นกระเช้าที่ Nihondaira Ropeway เพื่อขึ้นไปเที่ยวศาลเจ้า Kunosan Toshogu ทางขึ้นกระเช้าจะอยู่ติดกับร้านขายของที่ระลึก บนดาดฟ้าของสถานี Ropeway สามารถขึ้นไปชมวิวได้ ระหว่างทางนั่งกระเช้าขึ้นเขาจะสามารถมองเห็นวิวอ่าว Suruga Bay และภูเขาไฟฟูจิจากมุมสูงอีกด้วย
KUNOSAN TOSHOGUN
ศาลเจ้า Kunosan Toshogu สร้างเพื่ออุทิศให้แก่โชกุนโทกุงะวะ อิเอยะสุ ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกของญี่ปุ่น สถาปัตยกรรมของศาลเจ้าจะเป็นแบบเดียวกันศาลเจ้า Nikko Toshogu ในเมือง Nikko สถาปัตยกรรมแบบนี้จะมีอยู่ไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้านี้มีพื้นที่กว้างขวาง ประกอบด้วยอาคารใหญ่สีแดงหลายหลัง โดยเฉพาะตัวอาคารหลักได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม หลังคาสีดำเน้นตัดขอบสีทองแลดูสวยงามแปลกตาจากศาลเจ้าอื่นๆในญี่ปุ่น
ศาลเจ้า Kunosan Toshogu สร้างเพื่ออุทิศให้แก่โชกุนโทกุงะวะ อิเอยะสุ ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกของญี่ปุ่น สถาปัตยกรรมของศาลเจ้าจะเป็นแบบเดียวกันศาลเจ้า Nikko Toshogu ในเมือง Nikko สถาปัตยกรรมแบบนี้จะมีอยู่ไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้านี้มีพื้นที่กว้างขวาง ประกอบด้วยอาคารใหญ่สีแดงหลายหลัง โดยเฉพาะตัวอาคารหลักได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม หลังคาสีดำเน้นตัดขอบสีทองแลดูสวยงามแปลกตาจากศาลเจ้าอื่นๆในญี่ปุ่น
สำหรับใครที่ขึ้นกระเช้ามาแบบตีตั๋วขาเดียว ขากลับสามารถเดินลงเขาไปได้ โดยเดินลงบันไดหินกว่าพันขั้นที่สร้างเป็นทางโค้งวนไปตามแนวเขา ข้างล่างจะเป็นไร่สตอเบอรี่ ถ้าจะกลับทางนี้ก็จะต้องไปขึ้นรถบัสอีกจุดหนึ่งเพื่อกลับไปสถานีรถไฟ Shizuoka Sta. แต่ทริปของเราเลือกนั่งกระเช้ากลับลงไปที่จุดเดิม เนื่องจากช่วงที่เรามาถึงยังไม่มีสตอเบอรี่ให้เก็บ สวนสตอเบอรี่จะเปิดบริการตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม เรานั่งกระเช้ากลับลงมาขึ้นรถบัสตรง Nihondaira Ropeway Bus Stop(เช็คเวลารถกลับล่วงหน้าด้วย) กลับไปสถานีรถไฟ Shinuoka Sta. เพื่อที่จะไปเดินเล่นถนนช๊อปปิ้ง Gofukucho กันต่อ
GOFUKUCHO DORI
ถนน Gofukucho dori เป็นถนนช๊อปปิ้งที่มีความยาวประมาณ 800 เมตร สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าขายเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ร้านขายยาและเครื่องสำอางค์ รวมไปถึงร้านขายผลิตภัณฑ์ชาเขียวของขึ้นชื่อของจังหวัดชิซูโอกะ ถนนเส้นนี้จะขนานไปกับทางเดินใต้ดินจากหน้าสถานีรถไฟ Shizuoka แต่ถนนด้านบนจะดูคึกคักกว่า มีร้านค้าร้านอาหารให้แวะชมแวะชิมมากกว่า ตลอดทางเดินบนถนนเส้นนี้จะมีทางขึ้นลงจากทางเดินใต้ดินเป็นระยะๆ
QU'IL FAIT BON
จากถนน Gofukucho เดินมาไม่ไกล จะเจอกับร้านทาร์ตผลไม้ Qu'il Fait Bon (อ่านว่า คิล เฟ บอน) เป็นร้านขายทาร์ตและเค้กผลไม้ โดยทางร้านจะใช้ผลไม้ตามฤดูกาลมาทำเป็น Topping ทาร์ตผลไม้หน้าล้นทะลักหลายหลากเมนู ชนิดที่ว่าเลือกกินไม่ถูกเลยทีเดียว ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1992 เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีอยู่หลายสาขาตามเมืองใหญ่เช่น โตเกียว โอซาก้า เกียวโต ฟุกุโอกะ ฯลฯ
สำหรับสาขาชิซูโอกะนี้จะตกแต่งแนววินเทจ ภายในร้านดูอบอุ่นน่านั่งจิบน้ำชาในบรรยากาศสบายๆ แต่ระวังอย่าทานจนอิ่มละ เผื่อท้องไว้ร้านข้างๆถัดไปไม่ไกลด้วย ^^
ทุกๆปีทางร้านจะมีจัดงานเทศกาลสตอเบอรี่ โดยจะใช้สตอเบอรี่หลากหลายสายพันธุ์จากทั่วประเทศญี่ปุ่นมารังสรรค์เป็นเมนู ซึ่งจะมีจำหน่ายเฉพาะเทศกาลไม่กี่วันเท่านั้น
NANAYA MATCHA
จากร้านทาร์ตผลไม้ก็มาต่อด้วยไอศครีมเลย ร้าน Nanaya Matcha เป็นร้านไอศครีมชาเขียวในตำนานเพราะมีไอศครีมชาเขียวรสชาติเข้มข้นแบบสุดๆ โดยปกติถ้าเอาชาเขียวมาทำเป็นไอศครีมรสชาติถึงระดับ 5 ก็จะขมจนทานไม่ได้แล้ว แต่ร้านนี้สามารถปรุงแต่งรสชาติความขมได้ถึงระดับ 7 โดยที่รสชาติยังอร่อยเข้ากันกับความขมของชาเขียว สำหรับคนที่ชอบทานไอศครีมชาเขียวแบบขมๆ ต้องห้ามพลาด ลองเลือกดูนะครับว่าความขมระดับไหนเหมาะกับคุณ!!!
ที่ร้านไม่ได้มีขายแต่ไอศครีมนะ มีโรลเค้กด้วย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ทำมาจากขาเขียว
เสร็จจากร้านชาเขียว เราก็เดินย้อนกลับมาที่สถานีรถไฟ Shizuoka Sta. ขึ้นรถไฟขบวน Shinkansen Hikari ใช้เวลาแค่ 62 นาทีถึง Tokyo Sta.
ทริปนี้คงจะได้ภาพสวยๆของภูเขาไฟฟูจิกันเยอะเลย แล้วอย่าลืมมาแชร์กันด้วยหละ ขอให้สนุกกับการเดินทางนะครับ
ปล.ชื่นชอบบทความ ช่วยกดไลท์กดแชร์ Facebook Fan Page ด้านล่างสุด จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น