1 วันในเมืองบิเอะ "ขี่จักรยาน ดูทุ่งหญ้า ชมต้นไม้"
บิเอะเป็นเมืองที่อยู่ติดกับเมืองฟุระโนะ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศในการมาชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในฤดูร้อน บิเอะอยู่อยู่ห่างจากฟุระโนะแค่ประมาณครึ่งชั่วโมง ถ้าถามว่าเมืองบิเอะมีอะไรน่าเที่ยว? การเที่ยวในเมืองบิเอะคือการมาชมทุ่งหญ้า ต้นไม้ และทุ่งดอกไม้ ซึ่งนอกจากจะสามารถขับรถเที่ยวชมบรรยากาศในเมืองแล้ว เรายังสามารถขี่จักรยานเที่ยวชมธรรมชาติได้อีกด้วย มันเป็นอีกรสชาตินึงของการเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งขอแนะนำว่าต้องลอง!! แล้วคุณจะได้สัมผัสเมืองบิเอะอย่างแท้จริง
สำหรับคนที่ต้องการเช่าจักรยานขี่เที่ยวในเมืองอย่างผม แนะนำให้มาเช่าจักรยานที่บริเวณรอบๆสถานีรถไฟบิเอะ บริเวณนี้จะมีร้านให้เช่าจักรยานอยู่หลายร้าน ผมเลือกเช่ากับร้านของคุณลุงที่อยู่ข้างๆสถานีรถไฟ ถ้าเดินออกจากประตูมาปุ๊บจะเห็นร้านของคุณลุงอยู่ทางซ้ายมือ ชื่อร้าน MATUURA ลองเทียบราคาดูแล้วร้านของคุณลุงราคาถูกกว่าร้านอื่นจักรยานที่ให้เช่าหลักๆจะมีอยู่ 2 แบบ คือจักรยานธรรมดาราคาอยู่ที่ชั่วโมงละ 200 เยน และจักรยานไฟฟ้าชั่วโมงละ 600 เยน ถ้าคุณไม่แกร่งพอแนะนำให้เช่าเป็นจักรยานไฟฟ้า เพราะตลอดเส้นทางจะมีเนินเขา ซึ่งเราจะต้องขี่ขึ้นเนินลงเนินเป็นระยะๆ จักรยานไฟฟ้ามันช่วยทุ่นแรงได้เยอะจริงๆ
คุณลุงที่ร้านเช่าจักรยานจะให้เราเลือกว่าจะไปเส้นทางไหน แกจะมีแผนที่มาให้พร้อมกับความพยายามในการอธิบายเส้นทางให้เราด้วยภาษาอังกฤษแบบเป็นคำๆปนกับภาษาญี่ปุ่น แต่ก็พอเข้าใจได้ เอิม...คุณลุงครับ!! ผมใช้ google map นำทางไปง่ายกว่านะคุณลุง ^^
สำหรับเส้นทางการขี่จักรยานจะมีอยู่ 2 เส้นทาง เส้นทางที่ 1 เรียกว่า Patchwork Road ตลอดเส้นทางจะเป็นทุ่งหญ้ากว้างๆสีเขียวสีเหลืองสลับกันไปราวกับผืนผ้ามาปะต่อกันเป็นระยะทางยาว เส้นทางนี้ถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว จะมีจุดที่น่าสนใจหลายจุด เช่น หอชมวิว Hokusei Hill Observatory/ต้นไม้ Ken and Mary/ต้นโอ๊ค Seven Star Tree/และแนวต้นสนที่ Mild Seven Hill ถ้าจะไปในเส้นทางนี้ต้องใช้เวลาสักประมาณ 3 ชั่วโมง ส่วนเส้นทางที่ 2 เรียกว่า Panorama Road เส้นทางนี้ถ้าขี่จักรยานเที่ยวจะโหดกว่า เพราะมีเนินเขาที่สูงชัน จุดท่องเที่ยวที่สำคัญจะเน้นไปทางทุ่งดอกไม้ เช่น สวนดอกไม้ Shikisai no oka/สวนดอกไม้ Kanno Farm
ใกล้กันมีร้านขายไอติมรสลาเวนเดอร์กับรสเมลอน ก็จัดไปทั้งสองรส อร่อยทั้งสองรสนะครับ ^^
ด้านล่างหอชมวิวมีสวนดอกไม้ขนาดย่อมๆ ดอกไม้รูปทรงแปลกตาดี เลยขอลงไปถ่ายรูปซะหน่อย ขี่จักรยานเที่ยวมันก็ดีตรงนี้แหละ ซ็อกแซ็กไปได้ทั่วอยากจะแวะจอดตรงไหนก็จอด
สาเหตุที่ทำให้เมืองบิเอะเริ่มมีชื่อเสียง จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะหลายจุดในเมืองถูกใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำโฆษณา สินค้าชื่อดังหลายตัว จนเกิดกระแสตามรอยโฆษณาในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ
และจากจุดนี้มองไปบริเวณใกล้ๆจะเห็น ต้นคริสต์มาส ตั้งอยู่ไกลๆอย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่
และจุดสุดท้ายที่มาถึง คือจุดที่จะมาถ่ายรูปกับต้นโอ๊คขนาดใหญ่ มีชื่อเรียกว่า Seven Stars Tree เนื่องจากต้นไม้ต้นนี้ถูกใช้เป็นภาพบนซองบุหรี่ ยี่ห้อ Seven Stars นั้นเอง
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มแล้ว ฝนทำท่าจะตก เราตัดสินใจขี่จักรยานกลับไปคืนที่ร้านเช่าจักรยาน แพลนว่าหลังจากคืนจักรยานแล้วเราจะขับรถเที่ยวต่อในเส้นทาง Panorama Road
ตลอดเส้นทางจะมีรถขับผ่านมาเป็นระยะๆ แต่คนที่นี่เค้าขับรถกันค่อนข้างมีมารยาท เวลาขับเข้ามาใกล้คนขี่จักรยานเค้าจะขับช้าระวังเรา หรือบางทีก็ให้เราไปก่อน
หลังจากคืนจักรยานแล้วเราขับรถมาเที่ยวที่สวน Shikisai no oka ที่จะมีหุ่นฟางที่ทำจากฟางหญ้าม้วนเป็นก้อนกลมๆ คอยรอต้อนรับอยู่
ขออนุญาตเอารูปจากอินเทอร์เน็ตมาให้ดู ในช่วงเวลาที่พีคๆ เนินเขาแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกไม้ ดูราวกับเป็นพรมที่ทอด้วยดอกไม้สลับสีสวยงามมาก
ภายในสวนมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการขับรถ ATV หรือนั่งรถแทรกเตอร์เที่ยวชมสวน นอกจากนี้ภายในบริเวณสวนแห่งนี้ยังมีร้านขายของฝากของที่ระลึกด้วย
ถ้ามาถึงตรงนี้ก็อย่าลืมแวะซื้อไอติมจากร้านค้าใกล้ๆ มันเป็นไอติมครีมโซดา สีฟ้าสดใส รสชาติสดชื่น อร่อยดีครับ แต่แอบแพงไปนิด แท่งละ 500 เยน 😅😅😅
ส่วนร้านอาหารเย็นที่เราจะมากินคือร้าน Asperges ตั้งอยู่ใน Biei Senka ความพิเศษของร้านนี้คือเป็นร้านอาหารฝรั่งเศษที่เน้นใช้วัตถุดิบพื้นเมืองมาทำเป็นเมนูต่างๆ และที่สำคัญ ร้านนี้เคยได้รางวัล 1 ดาวมิชลินสตาร์ในปี 2012 ด้วย
อาหารของที่นี่มีทั้งแบบเป็นอลาคาส และแบบเซตเมนู สำหรับราคาของเซตเมนู ถ้าเป็นมื้ออาหารกลางวันราคาจะเริ่มต้นที่ 2600 เยน ถ้าเป็นมื้อเย็น ราคาจะเริ่มต้นที่ 3800 เยน ก็ถือว่าเป็นร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ที่ราคายังพอเอื้อมถึงได้
จานที่ 2 จัดจานมาอย่างสวยงาม เป็นสลัดผักที่มีผักรวมกันถึง 20 ชนิด ทานคู่กับครีมซอสเมล่อน สีเขียวและสีส้ม
จบทริป 1 วันในบิเอะแล้วนะครับ เป็น 1 วันเต็มๆที่เราใช้เวลาอยู่ในเมืองบิเอะและได้ทำอะไรหลายต่อหลายอย่าง สำหรับใครที่มาเที่ยวเมืองฟุราโนะ แนะนำว่าให้ลองแบ่งเวลาสัก 1 วันมาเที่ยวบิเอะดูบ้าง บรรยากาศทุ่งหญ้ากว้างๆ ขี่จักรยานรับลมชิวๆ มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ ก็เป็นอะไรที่ดีเหมือนกันนะครับ
ปล.ชื่นชอบบทความ ช่วยกดไลท์กดแชร์ Facebook Fan Page ด้านล่างสุด จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น